วันเสาร์ที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2551

คำผญาทำนองลำส่อง

คำผญาทำนองลำส่อง
โดย ครูรัศมี ภักดีศิริวงษ์
มนต์เด้อ ข้อยได้มาถึงห้อง ภูมิปัญญาท้องถิ่น (๑)
ขอให้องค์ปิ่นไท้ ได้ให้และช่วยชู
และขออภัยแก่ข้า ผู้วาจาจ้วงจาบ (๒)
ผู้ละลาบละล้วง ผญาเจ้าคู่สู่คน
เจ้าหลาบหล่าย สายอำคาให้ฟังแน่ (๓)
มีบางคำที่ต้องแก้ กาพย์กลอนนั้นจังสิเดิน
กลอนที่ใช้ เจ็ดถึงสิบเอ็ดก็ตามแต่ (๔)
สัมผัสแน่บ่แน่ ตามโบราณแต่เค้า ตัวเจ้าให้คอยฟัง
จันทร์เพ็ญแจ้ง บ่ปานแสงตะวันฮุง (๕)
แสงกะบองหมื่นเล่ม บ่หงายแจ้งท่อเดือน
ดาวเทิงฟ้า ดวงเดียวบ่ห่อนฮุง (๖)
อาศัยแสงหน่วยนั้นอาศัยแสงหน่วยนี่ โฮมเข้าสว่างเอง
เกลือเค็มแล้ว กลายเป็นจางบ่ห่อนแม่น (๗)
ครั้นเป็นไม้แก่นหล่อน หลวมโพรกบ่ห่อนเป็น
ไผผู้เป็นขุนกล้า ครองเมืองจึงเฮืองฮุง (๘)
ไผเป็นขุนขี้ย่าน ครองบ้านบ่ฮุงเฮือง
ครั้นว่าบุญมีแล้ว เป็นขุนก็หากคล่อง (๙)
ครั้นว่าบุญบ่พร้อม แสนสิดิ้นก็ด่าวดาย
บุญมีแล้ว แนวดีก็ป้องใส่ (๑๐)
ครั้นว่าบุญบ่ให้ แนวขี้ฮ้ายก็แล่นโฮม
ครั้นได้เป็นนายแล้ว อย่าลืมคุณบ่าวไพร่ (๑๑)
ครั้นหากไพร่บ่พร้อม สีหน้าบ่ฮุงเฮือง
ครั้นได้ขึ้นเฮือแล้ว อย่าลืมแพป้องไม้ไผ่ (๑๒)
ได้เป็นใหญ่อย่าลืมข้า ผู้เคยได้ช่วยชู
เห็นว่าขวานสินไม้ ฟันเป็นอย่าว่าง่าย (๑๓)
ลางเทื่อเสียสี่เท้า ตีนห้านก็ป่วยการ
ครั้นได้เป็นนายนั่น ให้มีใจฮักไพร่ (๑๔)
คำเป็นจริงจังให้เว้า คำส้มนั้นอย่ามี

ครั้นสิคอยบุญมาค้ำ ครั้นบ่ทำก็บ่แม่น (๑๕)
คอยแต่บุญส่งให้ มันสิได้บ่อนได๋
ชื่อว่าคลองคูณค้ำ ไผทำสร้างประโยชน์ (๑๖)
ทั้งเฒ่าแก่และหนุ่มน้อย ไผทำได้ก็ฮุงเฮือง
ไผสิมาแปลงสร้าง ฮวงฮังให้หนูอยู่ (๑๗)
ครั้นปากบ่กัดตีนบ่ทื้น สังสิได้อยู่ฮู
เทียวทางบ่สุดเส้น อย่าถอยหลังเขาสิย่ำ (๑๘)
ไปตายดาบหน้าพุ้น เขาจึงย่องว่าหาญ
บ่มีแหปลาบ้อนตื้น บ่มีปืนนกจับต่ำ (๑๙)
บ่เกรงยำผู้อยู่ตุ้ม คนพาลหุ้มเข้าย่ำยี
เฮือคาแก้ง เกวียนเห็นให้ฟ่าวช่วย (๒๐)
บัดฮาเกวียนข้ามน้ำ เฮือสิได้ช่วยเกวียน
หลายคนเข้า หลายพายหากสิแล่น (๒๑)
ตกสีพายให้พรั่งพร้อม เฮือเจ้าแฮ่งแล่นดี
ครั้นได้กินปลาค้าว อย่าลืมคาวปลาค่อ (๒๒)
ได้เป็นหมอคล้องช้าง อย่าลืมหมอล่อต่อนกเขา
กินปลาแล้ว อย่าลืมปูปละปล่อย (๒๓)
บัดหาปลาบ่ได้ ยังสิได้ป่นปู
ครั้นสิกินให้พวมฮ้อน อย่าสู่วอนให้เย็นก่อน (๒๔)
ครั้นสิฟ้อนก็ให้ฟ้อน ยามเมานั้นจังดี
ของกินบ่กินนี่ มีแต่วันมันสิเน่า (๒๕)
ของเก่าบ่เล่าแจ้ง ก็ลืมได้เมื่อลุน
อย่าได้ไลลืมถิ่ม ผักสะเดาต้นเก่า (๒๖)
บัดฮากินลาบก้อย ยังสิโอ้อ่าวหา
อย่าได้เมามัวด้วย ความกินบ่ฮู้อิ่ม (๒๗)
ให้มีใจอ่อนน้อม ประสงค์ตั้งต่อทาน
มีปลาบ่มีหม้อ สิเอาหยังมาต้มอ่อม (๒๘)
หม้อนั้นช่างบ่ปั้น ห่อนสิได้อ่อมแก่ง
เห็นว่ามีขัวไม้ อย่าไลทางเส้นเก่า (๒๙)
บัดขัวหักขาดแล้ว ยังสิโอ้อ่าวหา

ถามเข็มแล้ว ถามไหมเบิ่งซะก่อน (๓๐)
ไหมบ่มาแหย่ก้น สนได้ก็บ่งาม
ครั้นว่ามีผืนผ้า บ่หาแพรมาพาดบ่า (๓๑)
เจ้าสินุ่งแต่ผ้า ไปได้จังได๋
ยามเมื่อมีเงินล้าน เต็มถงอย่าฟ่าวโอง (๓๒)
ลางเทื่อถงขาดก้น สิจนได้ดอกเมื่อลุน
ครั้นว่ามีเงินแล้ว บ่ย่านไผอย่าฟ่าวว่า (๓๓)
บัดฮาลิ้นคอบแข้ว น้ำตาเจ้าสิหย่าวไหล
ฝนตกยังฮู้เอื้อน นอนกลางคืนยังฮู้ตื่น (๓๔)
คนทุกข์ยังฮู้เตื้อง มีขึ้นว่าเมื่อลุน
เห็นว่าเป็นผักเบี้ย ริมทางอย่าฟ่าวย่ำ (๓๕)
บัดมันทอดยอดขาวบัดมันทาวยอดขึ้น สิแหงนหน้าหล่ำแยง
แมงวันเขียวตายย้อนขี้ คนผู้ดีตายย้อนโอง (๓๖)
คนหยิบโย่งตายย้อนคร้าน เบิ่งเพิ่นย่านแต่เก่าแฮง
แนวนามอ้อ ลมมาบ่ห่อนโค่น (๓๗)
เพราะว่าอ้อบ่ตั้ง ขันสู้ต่อลม
ไม้ใหญ่นี่ ลมตีก็หักครึ่ง (๓๘)
บ่คือเครือหญ้าปล้อง ลมต้องก็บ่เพ
ยูงยางไม้ ลำสูงแสนยิ่ง (๓๙)
ลมพัดต้อง ยังล้มล่าวลง
จวงจันทร์ไม้ แนวหอมหายาก (๔๐)
อันว่าเชื้อชาติไม้ หาได้ทุกยาม
คนเฮานี้ มีดีหลายท่า (๔๑)
อย่าติพุ้นติพี้ เวรสิจี้จองจำ
ติแตกควายบักเลฮ้าย ผักประตูบ่อัดฮี (๔๒)
ติแต่แมงหวี่ฮ้าย ตีนซิ่นบ่หล่ำเพียง
ติแต่แมงวันฮ้าย ตอมโตอยู่โผละโผละ (๔๓)
โตหากเหม็นอู้อู้ สิติได้ฮ่อมใด๋
ติแต่งัวควายหม่น เฮียวหนามฮั้วไฮ่ (๔๔)
มันหากเห็นบ่อนได้ จึงเที่ยวหม่นตั้งแต่หนาม

ติแต่เขาคนฮ้าย กายตนบ่เตื้องต่อ (๔๕)
ติแต่คออึ่งเผ้า คอเจ้าก็แฮ่งจน
อันชะตาคนนี้ มีมาหลายอย่าง (๔๖)
จังค่อยทำให้ได้ ดีถ้วนทุกอัน
ครั้นสิเป็นหมอหว่าน หมอยาหมอเป่า (๔๗)
ครั้นสิเฮียนบีบเส้น เอ็นนั้นซวงดี
หรือสิเฮียนคงค้อน คงหลาวหอกดาบ (๔๘)
เฮียนให้เถิงขนาดแท้ ดีถ้วนทุกอัน
หรือสิเฮียนหนังสือให้ เฮียนไปสุดขีด (๔๙)
ครั้นแม่นเฮียนแท้ได้ เป็นฮุ้สูคน
หรือสิเป็นหมอเต้น หมอดีหมอต่อย (๕๐)
ให้ได้เฮียนแท้แท้ มีคนจ้างสู่วัน
หรือสิเป็นหมอฮ้อง หมอลำหมอปี่ (๕๑)
เอาให้คนบ่อี้ ฟังแล้วอยู่เย็น
หรือสิเป็นหมอน้ำ ตึกปลาแหหว่าน (๕๒)
หาให้ได้เต็มข้อง ทุกวันนั้นจังดี
หรือสิเป็นหมอสร้าง นาสวนฮั้วไฮ่ (๕๓)
เก็บเอาเงินท่าไว้ ซื้อเกวียนห่างทุกขน
หรือสิเป็นหมอไม้ หมอมอหมอส่ง (๕๔)
ให้มันฮู้ฮอดหม่อง ผีนั้นอยู่ได๋
ครั้นเป็นหมอถืกต้อง เงินทองก็ไหลหลั่ง (๕๕)
ครั้งว่าเงินมีแล้ว เอาแก้วก็ง่ายดาย
ครั้งบ่มีเงินนี้ พอปานกับคนโง่ (๕๖)
ทางแขนขาก็เมื่อยล้า ใจนั้นก็หง่อมเหงา
เกิดเป็นคนให้เฮียนฮู้ เฮ็ดซู่ลู่เขาบ่ย่ำ (๕๗)
เฮ็ดซำงำเขาบ่ย่าน ไปเที่ยวบ้านให้เบิ่งทาง
แมนสิมีความฮู้ เต็มพุงกะตามซาง (๕๘)
โตสอนโตบ่ได้ ไผสิย่องว่าดี
ครั้นเจ้าทอผืนผ้า ให้ถามครูผู้ฉลาด (๕๙)
เพิ่นนั้นเป็นผู้แต้ม แปลงให้ก็จังงาม

อย่างได้ลืมคุณแก้ว มุ่งคุณของเก่า (๖๐)
ควรสิเอาห้อยคล้อง คอไว้จังดี
เห็นว่ามีสุขแล้ว บ่เหลียวแลพวกเพื่อน (๖๑)
ครั้นหาสุขบ่เรื่อย สิเหลียวหน้าเบิ่งไผ
ข้อยนี้แนวเสียมเหี้ยน ประสงค์หาแต่ดินแก่น (๖๒)
เสียมก็เสียมบ้องตื้น ประสงค์ฝื้นตั้งแต่โพน
มองเห็นศาลากว้าง น่าสำบายจึงมาแว (๖๓)
หวังแต่หม่องกว้างกว้าง สิเอากล้วยมาตื่มสวน
ชาติที่แนวนามเชื้อ หอยนาหน้าต่ำ (๖๔)
บ่ห่อนหงายหน้าเว้า หอยกว้างบ่วงชะเล
ชาติที่แนวนามช้าง ตัวสูงเชื้อใหญ่ (๖๕)
มาคว้าเทียมไก่เตี้ย ประสงค์เอิ้นว่าเพีย
ใจบ่ใสต่อแก้ว แยงเงาก็บ่ส่อง (๖๖)
ใจบ่ใสต่อฆ้อง ตีได้ก้บ่ดัง
ครั้นว่าใจประสงค์แล้ว เมืองแกวก็ดั้นฮอด (๖๗)
แสนสิจอดอยู่ฟ้า ตะเกินขึ้นก่ายเอา
ครั้นเจ้าซื้อช้างเฒ่า ขายงาได้กินค่า (๖๘)
ครั้นเจ้าซื้อช้างน้อย หายจ้อยจ่อมทุน
สิให้ไลลืมเจ้า บ่มีวันสิลืมง่าย (๖๙)
ดินบ่หงายฟ้าบ่ปี้น หินอยู่น้ำบ่ฟูขึ้นกะบ่ไล
เจ้าเอาหินแห่คั้นส้ม เอาลมมาเฮ็ดตองห่อ (๗๐)
เอาแดดเฮ็ดตอกกิ้ว มันสิหมั่นบ่อนใด๋
อย่าตั๋วให้กินน้ำ เหมิดเฮือเกลือเหมิดหมื่น (๗๑)
กินหมากนาวเหมิดต้น คำส้มก็บ่มี
ครั้นข้อยถามหานาเจ้า เป็นหยังจังบอกท่ง (๗๒)
ถามหาโป่งเป็นหยังบอก วังหว้าน้ำอ่างหิน
แม่นเจ้าเหลียวเห็นแฆ่ ในหนองหรือว่าบ่ (๗๓)
หรือว่าเห็นแต่แฆ่ ทางแย้ก็บ่เห็น
เจ้าผู้จูมจอมเหน้า หนามสิซอนซ้อนอยู่ (๗๕)
บัดว่าห่าบ่พ้อ ยังสิได้ใส่นา

ให้เจ้าอดส่าห์เลี้ยง กินขิงแทนต่างข่า (๗๖)
อดส่าห์นอนสาดเหี้ยน พอพ่อสาดหวาย
ให้เจ้าอดส่าห์เลี้ยง กินลิงแทนกระต่าย (๗๗)
อดส่าห์เว้าผู้ฮ้าย พอพ่อเพิ่นผู้ดี
ให้เจ้าอดส่าห์เลี้ยง กินปลาไหลแทนเอียน (๗๘)
ให้เจ้าเมี้ยนตอนซิ้นไว้ แทนเนื้อเมื่อหิว
ให้เจ้าอดส่าห์เยื้อน นอนเฮือนฟากไม้ไผ่ (๗๙)
หากบุญใหญ่มีมากล้น สินอนแป้นแผ่นพรม
ทางหลวงมีหลายเส้น ตามใจสิเลือกไต่ (๘๐)
ฮกเลี้ยวแปนเลือกได้ ใจเจ้าให้ว่าเอา
บ่อยากเสวนาด้วย แสนสิออยก็ว่าด่า (๘๑)
แม่นสิหวานจ้อยจ้อย พอปานป้อยและห่ากิน
อันว่าคนเฮานี่ ยามบ่ดีบีมีซ่อย (๘๒)
เป็นหลวงเพิ่นก็ป้อย เป็นน้อยเพิ่นก็ชัง
เจ้าหลาบหล่าย สายอำคาให้ฟังแน่ (๘๓)
เจ้าอย่าพัวผู้นั้นเจ้าอย่าพันผู้นี้ ตูข่อยให้คึดหวง
เป็นหญิงนี้ ธรรมเนียมดั่งนกเจ่า (๘๔)
ยามเมื่อบินแอ่นผ่าย ขาวแจ้งจังเห็น
เป็นหญิงนี้ ธรรมเนียมให้มันคล่อง (๘๕)
ตีนผมให้หล่ำเกลี้ยง ตีนซิ่นให้หล่ำเพียง
อย่าได้ปละสวนอ้ม หนีไปชมปลาเจ่า (๘๖)
อย่าได้ปละเล้าข้าว หนีไปซ่นป่ากลอย
อย่าได้เห็นของฮ้าย เป็นดีมีค่า (๘๗)
อย่าได้เห็นด่านด้าว ดงกว้างว่าแปน
แนวเสือเฒ่า จำศีลอย่าเพิ่งเชื่อ (๘๘)
ลางเทื่อเห็นหมู่เนื้อ ศีลสิม้างแตกกระเด็น
คาดสิได้ ไหลมาอ่องล่อง (๘๙)
คาดบ่ได้ ไหลน้ำล่องหนี
นกบ่ยินดีด้วย รุกโขบ่มีฮ่ม (๙๐)
สระบ่มีดอกไม้ คณาเนื้อบ่สงวน

ชาติที่สวยหอมนี้ มีศีลเป็นที่เพิ่ง (๙๑)
ความชั่วให้หลีกเว้น เวรนั้นให้หลีกไกล
รูปบ่สวยประสงค์สร้าง ศีลธรรมให้ตรงแน่ว (๙๒)
ให้เปรียบปานหน่วยแก้ว ราคาค้ำหมื่นแสน
ทุกข์บ่มีเสื้อผ้า ฝาเฮือนดีพอลี้อยู่ (๙๓)
ทุกข์บ่มีข้าวใส่ท้อง นอนลี้อยู่บ่เป็น
สิบปีล้ำซาวปีล้ำ บ่เห็นกวางมายามมั่ง (๙๔)
บัดห่าข้าวขึ้นเล้า เห็นหน้าเจ้าเทื่อเดียว
อันว่าไทยไกลนี้ เจิงเลิงน้ำแจวข่า (๙๕)
บ่ท่อใสจิ่งหริ่ง ไทยใกล้น้ำแจวขิง
อันว่าผัวเมียฮ้าย ยามเดียวเป็นเพิ่น (๙๖)
อันว่าพี่น้องฮ้าย ขี้ได้ก็บ่เหม็น
อันว่าพี่น้องนี้ ให้เอาใจฮักห่อ (๙๗)
อย่าได้ก่อเหตุฮ้าย ตีฆ่าด่ากัน
นาดีถามหาข้าว ลูกเต้าดีหาพ่อแม่ (๙๘)
เฒ่าแก่หาผู้เลี้ยง อย่าอยากได้ตั้งแต่ลูก
อันว่าการยกย่อง นินทาประจำโลก (๙๙)
ไผสิหนีหลีกลี้ ไปได้บ่ห่อนมี
อย่าได้กดเขาย่อง ยอโตโก้กว่าเพิ่น (๑๐๐)
อย่าได้หวีดหวีดเว้า ประสงค์ขึ้นข่มเขา
ไผสิเหลียวเห็นข้อ ใจคอนกถีดถี่ (๑๐๑)
ทางปากฮ้องพืดพืด ใจเลี้ยวใส่ปู
ให้เจ้าเอาเชิงไว้ คือเชิงผ้าเก่า (๑๐๒)
ยามเมื่อคิดฮุ่งฮู้ ยังสิได้ต่อกลาง
ให้เฮ็ดตนยาวไว้ คือเสาโทรเลข (๑๐๓)
บัดฮาเกิดเหตุฮ้อน ยังสิได้ส่งสาร
ชาติที่กลางคืนให้ ไปมาดีมีคู่ (๑๐๔)
เดือดดำไฟบ่ได้ อย่าสู่ได้เที่ยวทาง
อย่าได้พากันหล่ม หลงทางไปแนวอื่น (๑๐๕)
จงตื่นเบิกบานไว้ ใจตั้งต่อศีล
ความตายนี้ แขวนคอทุกบาทย่าง (๑๐๖)
ไผก็แขวนอ้อนต้อน เสมอด้ามดั่งเดียว
ให้เจ้าทำหน้าที่ เป็นดีกว่าทุกอย่าง (๑๐๗)
บุญที่ได้ปลูกสร้าง เจริญแท้แน่นอน



***************************

ไม่มีความคิดเห็น: